งูพันธุ์เล็กที่ดูแลง่าย เท่าที่รู้มี
แซน โบอา (Sand boa) หรือชื่อเต็ม Kenyan sand boa
งูจมูกหมู ฮอกโน้ส Hognose snake
และ โรซี่ โบอา (Rosy Boa)
สองชนิดแรก ผมยังพอจะเห็นร้านขายใน Facebook และ จตุจักร แต่สำหรับโรซี่ โบอา ไม่ค่อยแน่ใจครับ
แต่ขึ้นชื่อว่างู อาหารที่ให้เลยเป็นอะไรที่หลายคนไม่อยากแตะต้อง อย่างลูกหนูแช่แข็ง หรือ ลูกหนูไมซ์เพาะเป็นๆ
อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า เรายอมรับความเป็นจริงในธรรมชาติ ว่าโลกนี้มันมีสัตว์บางชนิดที่อยู่ได้ด้วยการกินสัตว์อื่นเท่านั้น ได้แค่ไหน
บางคนอาจจะกล้าให้หนูเหยื่อ แต่ติดที่ทางบ้านไม่ยอมให้เอาหนูไปแช่ในตู้เย็น
แต่เดี๋ยวนี้มีทางเลือกอย่างพวกตู้เย็นเล็กๆ หรือตู้แช่เย็นเล็กๆให้ซื้อมาใช้ส่วนตัวแล้วในราคาไม่กี่พัน ก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องต้องเอาหนูไปแช่รวมกับของกินได้ครับ
โชคดีหน่อย ที่งูไม่ต้องให้อาหารบ่อย อาทิตย์นึงให้ที หรืองูที่โตเต็มที่ ก็ 2-3 อาทิตย์ จะกินมื้อนึง
งูไม่สามารถกินเนื้อหมูเนื้อไก่สดได้ครับ ถ้าจะหาทางลัด แนะนำว่าเลี้ยงอย่างอื่นดีกว่า
ขนาดเมื่อโตเต็มที่
แซนโบอา เพศเมีย 26-32 นิ้ว ส่วนเพศผู้แค่ 15 นิ้ว
งู Hognose เพศเมีย 3ฟุต(90เซนฯ) เพศผู้ 2 ฟุต(60เซนฯ)
โรซี่ โบอา เมีย 2-3ฟุต ตัวผู้60เซนฯ
อายุขัยเฉลี่ยของแซนโบอา และ โรซี่โบอาคือ 15-30 ปี หรือมากกว่านั้น เรียกว่าซื้อครั้งเดียวคุ้ม
ฮอกโน้ส 15-20ปี
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า แซนโบอา ดูน่ากลัวน้อยสุด ดูอ้วนสั้นกว่างูชนิดอื่นและไม่มีพิษ งู Rosy boa ก็ไม่มีพิษ ฝรั่งเรียกงูพวกนี้ตลกๆว่า เส้นก๋วยเตี๋ยว (noodle)
ส่วนhognose มีพิษอ่อนๆที่เขี้ยวหลัง แต่งูพวกนี้ไม่ค่อยกล้ากัดคน แม้ว่าพิษมันจะไม่อันตราย ถ้าโดนกัดก็ควรไป รพ เผื่อไว้ก่อนดีกว่า เพราะบางคนอาจแพ้พิษพวกนี้ ทำให้พิษมีผลมากกว่าคนอื่น
วิธีเลี้ยงโบอา ทั้งสองชนิด
ตู้เลี้ยง ควรมีขนาด 20แกลลอน(30x12x12นิ้ว) ขึ้นไปสำหรับตัวผู้
ส่วนเพศเมีย 30แกลลอนขึ้นไป (36x18x12นิ้ว) หรือ (36x18x18) ตัวเลขที่น้อยๆคือความสูงของตู้ เพราะงูพวกนี้ต้องการพื้นที่กว้าง ไม่ได้ต้องการพื้นที่สูง ปิดฝาให้ดีระวังเส้นก๋วยเตี๋ยวพวกนี้ปีนหนีออก
ถ้าจะใส่ที่ซ่อนตัวลงไปในตู้ ให้ระวังเรื่องน้ำหนักของอุปกรณ์ เพราะงูอาจเผลอมุดดินไปอยู่ข้างใต้ แล้วโดนที่ซ่อนตัวที่ทำจากดินเผาหรืออะไรหนักๆทรุดลงมาทับตัวได้
อย่าเอาแซนโบอา ไว้ในห้องที่อุณภูมิสูง เช่นชั้นบนของบ้านที่ไม่มีแอร์ ให้เอาลงมาเลี้ยงชั้นล่างแทน
วัสดุรองพื้น
ขี้เลื่อยรองพื้นสำหรับงูโดยเฉพาะ ส่วนมากทำจากไม้ Aspen ซื้อได้จากจตุจักร และตามshopee lazada
เป็นวัสดุรองพื้นที่สะดวกสุดเพราะไม่ต้องเอามาผสมกับอะไร
บางคนก็ใช้ดินTopsoil(หน้าดิน)ไร้สารเคมี ผสมกับทรายสัตว์เลี้ยง หรือทราย play sand แทนขี้เลื่อย
หรือจะแบ่งโซนในตู้เป็นวัสดุรองพื้นที่เรียกว่า eco earth 7 ส่วน และ ทราย 3 ส่วนก็ได้
นอกจากนี้ก็สามารถใช้ขุยมะพร้าวสำหรับสัตว์เลี้ยงมารองพื้น
ความหนาของรองพื้น เอาให้เกิน 4-5 นิ้ว จะปูหนาๆกว่านั้นก็ได้
แม้ว่าชื่อ sand boa จะแปลว่างูโบอาทราย แต่จริงๆแล้วตามธรรมชาติมันใช้ชีวิตอยู่ตามดินปนทรายที่มีก้อนหินปนซะมากกว่า ไม่ได้อยู่ตามทรายล้วนๆ ดังนั้นเวลาจัดตู้ ก็พยายามนึกถึงภาพพื้นดินปนทรายตามธรรมชาติแห้งๆในไทยมีเศษใบไม้แห้งกระจายเป็นหย่อมๆ มากกว่าจะนึกถึงภาพทะเลทรายซาฮาร่า
ในตู้ใส่ถ้วยน้ำลงไปให้งูดื่ม เช่น ถ้วยเซรามิกก้นไม่ลึก หรือถ้วยน้ำสำหรับสัตว์เลื้อยคลานโดยเฉพาะของ Zoo med
ข้อมูลบางแห่งแนะนำให้ติดหลอดไฟ UVB เพื่อให้ร่างกายงูผลิตวิตามินD3 ขณะที่ผู้เลี้ยงหลายคนบอกว่าไม่มีก็ไม่เป็นไร
อุณหภูมิ
มีผู้เลี้ยงและร้านเพาะขายในไทยให้ข้อมูลว่า แซนโบอาเลี้ยงในอุณภูมิห้องธรรมดาได้ ไม่ต้องปรับแต่งอุณหภูมิอะไร
ส่วนเว็ปเมืองนอกแนะนำว่า ตู้เลี้ยงแซนโบอา ควรมีด้านร้อนของตู้ ประมาณ29-35 องศา
ด้านเย็น 28 องศา
ทางด้านโรซี่ โบอา อุณหภูมิที่ต้องการจะต่ำกว่าแซนหน่อย คือ สูงสุด 32 จุดเย็นของตู้คือ 27 องศา ต้องการความชื้นในอาหาศแห้งกว่า 60% ในขณะที่แซนโบอา ไม่ค่อยสนเรื่องความชื้น
อาหาร
หนูที่ให้ควรมีขนาดเท่าๆกับส่วนที่กว้างที่สุดของงูหรือใหญ่กว่าเพียงเล็กน้อย
งูเด็ก - หนูแดงทุก 5-7 วัน
งูวัยรุ่น - หนูขนตัวเล็ก ทุก 1-2 อาทิตย์
งูโตเต็มที่ - หนูโตเต็มวัย ทุก 2-3 อาทิตย์
เวลาให้อาหารควรหาถาดหรือจานทรงแบนมาวางรองหนู เพื่อป้องกันไม่ให้งูกินวัสดุรองพื้นไปด้วย
วางหนูทิ้งไว้สองสามชั่วโมง หรือ ข้ามคืน พอเรากลับมาดูอีกที หนูก็จะหายไป
งูชนิดนี้มักจะเรื่องมากเวลากิน ถ้าไม่มีอารมณ์มันก็จะไม่กินเลยเป็นอาทิตย์ๆ หรือเดือนๆ ดังนั้นเวลาให้อาหาร ถ้างูไม่สนเลย ให้คิดว่าเป็นเรื่องปรกติ
แซนโบอา ส่วนมากจะไม่โชว์ตัว และมุดอยู่ใต้วัสดุรองพื้น จนกว่าจะกลางคืนหลังจากปิดไฟในตู้ถึงจะออกมาให้เห็น เวลาเลี้ยงจะรู้สึกว่าเหมือนเลี้ยงตู้เปล่าๆ ที่เวลาใส่หนูลงไปแล้วหนูจะหายตัวภายในเวลาไม่นาน
ส่วน โรซี่ โบอาจะออกมาอยู่บนพื้นให้เห็นมากกว่า ส่วนระดับความเชื่องจะพอๆกัน
ทั้งแซนโบอา และ โรซี่ จะยอมให้เราเอาขึ้นมือเล่น แต่ก็จะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ไม่ใจง่ายให้เราอุ้มได้ตามต้องการเหมือนงูบอลไพธอน
โรซี่โบอา เพาะยากกว่าแซนโบอา คอกนึงอย่างมากก็ 4 ตัว เลยเป็นสาเหตุที่เมืองนอกหาซื้อยากกว่า
