แพรี่ ด็อก


แพรี่ ด็อก ( Prairie Dog )

แพรี่ ด็อก เป็นกระรอกดินชนิดหนึ่ง ดูคล้ายกับหมีตัวจิ๋วที่มีหน้าตาเป็นสัตว์ฟันแทะ ขนาดของมันราวฟุตถึงฟุตครึ่ง
มีหางไม่ยาวมาก คล้ายกับพู่กันสีน้ำตาลที่มีสีดำอยู่ตรงปลาย โดยสายพันธุ์ที่นำมาเลี้ยงคือ Black-tailed Prairie dog
มาจากทุ่งหญ้าแพรี่ในอเมริกา อายุขัยอยู่ราวๆ 7-12 ปี ราคาในไทยราว 4000 บาท ควรเลี้ยงตั้งแต่เล็กเพื่อความเชื่อง
โดยมักจะมีลูกเล็กๆให้ซื้อหาในเมกาช่วงเดือนเมษา ถึงกรกฎา ซึ่งคนที่นำเข้ามาในไทยก็อาจจะเป็นช่วงนี้เช่นกัน

ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่า และมีกลิ่นแรงกว่าเล็กน้อย แพรี่ด็อกมีเสียงร้องเหมือนหมา จึงเป็นที่มาของชื่อมัน

มันเป็นสัตว์ที่มีความต้องการทางสังคมสูงมาก นั่นหมายความว่ามันต้องการจะอยู่ร่วมกันสิ่งมีชีวิตตัวอื่น
ซึ่งอาจจะเป็นแพรี่ด็อกด้วยกัน หรือมนุษย์ก็ได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสัตว์ที่มีปฏิกริยาตอบสนองกับคนเลี้ยงสูง
มันไม่สามารถขาดการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เลย มิเช่นนั้นจะเหงาตาย เลยไม่เหมาะกับผู้เลี้ยงที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ เว้นแต่จะเลี้ยงสองตัวขึ้นไป
แพรี่ด็อกที่ถูกเลี้ยงมาแต่เล็กจะติดเจ้าของมาก และมักจะเข้ามาหา มาจับ และขอให้เจ้าของลูบตัวมัน
อาจจะวิ่งมาแทะเท้าคนเลี้ยง เพื่อเรียกร้องความสนใจ
ถ้าจะเลี้ยงมากกว่าหนึ่งตัว ควรเลี้ยงตัวแรกให้ติดเจ้าของก่อนจะหาเพิ่มอีกตัว ไม่เช่นนั้นมันจะไม่ผูกพันต่อคนเลี้ยง
มันจะตื่นในช่วงกลางวัน และชอบอากาศอุ่นไปถึงร้อน
สามารถจูงเดินเล่นได้ด้วยสายจูงที่ทำมาให้แพรี่ด็อกโดยเฉพาะ แต่มันพอใจที่จะอยู่ในบ้านกับเจ้าของอยู่แล้ว

ข้อที่ควรทราบคือ เราควรจะทำหมันแพรี่ด็อกทั้งสองเพศก่อนฤดูหนาวในปีแรกเลย
เพราะในช่วงที่มันติดสัดในทุกๆปี มันจะดุมาก ซึ่งอาจจะไล่กัดเจ้าของได้
และการปล่อยมันไว้โดยไม่มีการผสมพันธุ์จะทำให้ภายในร่างกายมันแย่ลงจนมีอายุสั้น
หลังจากที่ทำหมันให้แพรี่ ด็อก มันจะสงบเสงี่ยมไม่ดุร้ายในช่วงติดสัดนั้นแล้ว
โดยบางครั้งมันอาจจะเกิดอาการหวงถิ่นจนวิ่งไปกัดคนแปลกหน้าที่เข้ามาในบ้าน

แพรี่ ด็อกสามารถฝึกให้อึเป็นที่ได้ แต่ไม่ใช่ทุกตัว
วิธีคือ เอาสิ่งที่มันแทะไม่ได้ เช่นกระถางดินเผา หรือเซรามิก มาวางไว้ในกรง ในตรงที่ห่างจากส่วนให้อาหารและพื้นที่วิ่งเล่น
แล้วอึของมันใส่ในพาชนะนั้น เพื่อให้มันรู้ว่าตรงนี้เป็นห้องน้ำ
อาจใส่กระดาษเม็ดซับฉี่สำเร็จรูปไปด้วย แล้วตักเฉพาะส่วนที่เลอะออกทุกวัน
ต้องล้างพาชนะสำหรับอึทุกอาทิตย์

อาจจะไม่สำเร็จตั้งแต่แรก ก็พยายามเก็บอึมาใส่ตรงห้องน้ำที่เราทำให้เรื่อยๆ จนมันจำได้ แต่ก็แล้วแต่โชคของคนเลี้ยงด้วย
ว่ากันว่าแพรี่ ด็อก ไม่สร้างกลิ่นเหม็นในตอนเลี้ยงมากนัก

สัตว์เลี้ยงชนิดนี้เคยถูกแบนไม่ให้เลี้ยงในอเมริกาในปี 2003 เพราะเรื่องฝีดาษลิง
แต่ในปี 2008 วันที่ 8 กันยา การแบนได้ถูกยกเลิกไปในอเมริกา
ทำให้สามารถซื้อขายได้ตามปรกติ เพียงแต่บางรัฐยังห้ามเรื่องนี้อยู่

แพรี่ด็อกสามารถอยู่ในห้องเล็กๆห้องเดียว เช่นอพาตเมนต์ จึงไม่ต้องกังวลว่าต้องพามันเดินเล่นข้างนอก
แต่ไม่ควรปล่อยแพรี่ด็อกไว้ในห้องโดยไม่มีคนคอยดู มิเช่นนั้น เมื่อคนเลี้ยงกลับมา
ก็จะได้เห็นห้องตัวเองในสภาพเละเทะ เพราะถูกแทะ เนื่องจากแพรี่ด็อกชอบแทะทุกอย่างมากๆ จึงเป็นข้อเสียอีกข้อ

การห้ามแพรี่ด็อกไม่ให้แทะเฟอนิเจอร์ต่างๆคือ ให้ตะโกนดุมันในระหว่างแทะ แล้วมันจะหันมามอง
จากนั้นเราจึงโยนไม้สำหรับแทะให้มัน เพื่อให้มันรู้ว่าอันไหนควรอันไหนไม่ แต่เมื่ออายุมากขึ้น มันจะแทะสิ่งของน้อยลง


อาหารที่ให้กินคือ อาหารเม็ดของสัตว์ฟันแทะ(เช่นอาหารกระต่ายแฮมสเตอร์) ดูข้างซองเพื่อหาอันที่มีไฟเบอร์สูง
เพราะแพรี่ด็อกชอบอาหารที่มีไฟเบอร์เยอะ
และหาหญ้าทิโมธี (timothy hay) ซึ่งมีขายเป็นแพ๊คสำเร็จรูปตามร้านทั่วไปที่มีอาหารสัตว์เลี้ยงขาย
ชนิดของกรงที่แนะนำกรงกว้างสองชั้น ที่ใช้เลี้ยงเฟอเรต
ชั้นล่างปูด้วยขี้เลื่อยให้หนากว่าปรกติเพื่อให้ขุดทำโพรงเล่น แต่ควรปูด้วยหญ้าแห้งจะดีกว่า เพราะขี้เลื่อยมีฝุ่นที่ระคายเคือง
ใส่ที่ซ่อนตัวให้มัน เช่นกล่องกระดาษเล็กๆเจาะรูทางเข้า เพื่อให้มันใช้ซ่อนในยามเครียด และควรให้มันโดนแสงบ้าง
ควรจะมีของเล่นทำจากไม้ให้แทะด้วย
น้ำให้ด้วยกระบอกข้างกรงดีกว่าใส่ในอ่าง เพราะมันจะทำเลอะเทอะ หัวดูดควรทำจากเหล็ก เพื่อไม่ให้ถูกแทะจนพัง