ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ไทย

ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ไทย
Creobroter gemmatus (Indian flower mantis)

เป็นหนึ่งในตั๊กแตนชนิดที่นิยมซื้อขายกันในตลาด ค่อนข้างเลี้ยงง่าย ถ้าหาแมลงหวี่ได้

ตัวเมียโตเต็มที่ 4 เซนฯ ตัวผู้ 3 เซนฯ  ตัวผู้จะดูยาวและผอม มีปีกยื่นยาวกว่าก้น
ตัวเมียดูตัวหนากว่า มีปีกยาวกว่าก้นนิดเดียว

อายุขัยเฉลี่ย หนึ่งปี

ตอนที่เล็กมากๆเลี้ยงรวมกันได้ ตอนโตต้องแยก จะลอกคราบทั้งหมดประมาณ 8 ครั้ง
อุณหภูมิเลี้ยง 23-30 องศา  แต่ดีสุดคือ 25-28 องศา

ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ไทย ส่วนมากจะอยู่เฉยๆกับที่ทั้งวัน แต่ตอนกินอาหารจะทำตัวคึกคักและไล่ล่าเหยื่อ
เวลาตกใจจะหนีได้เร็ว สามารถบินได้ด้วย

อาหาร:
แมลงหวี่สายพันธุ์บินไม่ได้( flightless fruit fly ) เห็นขายเป็นกระปุกในเฟซบุ๊ค เพจ BeetleHub
แมลงหวี่  - หาได้ด้วยการเอากล้วย หรือผลไม้สุกใส่ภาชนะพลาสติก วางไว้นอกบ้านตรงจุดไม่มีแดดซักวันสองวัน พอมีแมงหวี่มาตอม ก็ให้เอาผ้าขาวบางมาปิดปากภาชนะ เท่านี้ก็ได้อาหารแล้ว
ลูกจิ้งหรีด - บางตัวอาจจะยอมกิน
หนอนนก - บางตัวอาจยอมกิน ให้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปากคีบหยิบส่วนที่หั่นมาจ่อข้างหน้าตั๊กแตน

ส่วนน้ำให้พรมบางๆใส่ผนังภาชนะเลี้ยงวันละครั้งหรือวันเว้นวัน ตั๊กแตนจะเข้ามาดื่มเอง ต้องใช้น้ำที่คนเราดื่ม ห้ามใช้น้ำปะปา

ภาชนะที่เลี้ยงควรมีขนาดกว้างเป็นสามเท่าของตัวตั๊กแตน มีรูระบายอากาศ และเน้นทรงสูง ประมาณ 15x10x10 เซนฯ
ในตู้อาจใส่แค่กิ่งไม้พาดเป็นแนวเฉียงก็ได้ หรือ จะใส่ของประดับให้ดูเป็นธรรมชาติด้วยต้นไม้พลาสติก ก็แล้วแต่เจ้าของ
ไม่จำเป็นต้องใส่วัสดุรองพื้น แต่ถ้าอยากใส่ก็เลือกเอาระหว่าง พีสมอส ขุยมะพร้าว กระดาษA4

สถานที่ซื้อ - กลุ่มเฟซบุ๊ค ชื่อยาวหน่อย เอาไปเซิร์จในช่องค้นหาของ เฟซบุ๊ค ตั้งแต่คำแรกถึงวงเล็บสุดท้ายเลยนะครับ ถ้าเซิร์จใน google อาจจะไม่เจอ
ชื่อกลุ่ม:
ตลาดซื้อขาย (ตั๊กแตนตำข้าว) (ตั๊กแตนกิ่งไม้) (ตั๊กแตนใบไม้)

ก่อนจะเลี้ยงควรหาแมลงหวี่ให้ได้ก่อน