งูกินไข่

งูกินไข่ Egg-eating Snakes ( Dasypeltis scabra / Dasypeltis medici / Dasypeltis fasciata)

เป็นงูที่มีต้นกำเนินจากแอฟริกา กินไข่(นกกระทา)เป็นหลัก ไม่มีฟันกัดคนและไม่มีพิษ เป็นงูที่ดูแลง่าย ถือเล่นได้ และนิสัยเรียบร้อย แต่บางตัวก็ขี้โมโหเหมือนกัน ดีที่มันไม่มีฟัน เวลาเราถูกกัดจึงไม่เข้าเนื้อ

ความยาวของลำตัว 60-76 เซนติเมตร แต่ก็อาจจะยาวกว่านั้นได้ อยู่ในกลุ่มงูตัวเล็ก
อุณหภูมิเลี้ยง 28-30 องศา

อาหาร: ไข่นกกระทาเท่านั้น
ไข่ไก่กินไม่ได้ เพราะใหญ่เกินปาก ถ้างูพยายามกินไข่ที่ใหญ่เกินตัว อวัยวะภายในอาจเสียหายได้
เว้นแต่งูที่โตมากแล้ว จึงสามารถให้กินได้  (แต่ยังไงไข่นกกระทาก็ปลอดภัยที่สุด)
ห้ามให้กินปลาทองหรือปลาอะไรก็ตาม เพราะมันมีเอนไซม์ที่ทำให้งูดูดซึมวิตามินได้ไม่ดี

วิธีให้อาหาร
ใส่ไข่นกกระทาลงไปในตู้ 5-7 ใบ และปล่อยไว้วันหรือสองวัน ถ้ามันไม่กินให้เอาออกไปทิ้ง  ให้แบบนี้อาทิตย์ละครั้ง
บางตัวก็ยอมกินไข่จากมือเรา
คอยตรวจว่างูกินไข่ไปแล้ว หรือถูกฝังอยู่ในวัสดุรองพื้น ถ้าทิ้งไข่ไว้ในที่ลับตานานๆมันจะเน่า

ปัญหางูไม่ยอมกินไข่: งูกินไข่บางตัวจะไม่ยอมกินไข่ที่เราให้ เพราะไม่ได้อยู่ตามธรรมชาติ
ให้ลองเอาไปถูกับตัวนก หรือไว้ในรังนกจริงๆ เพื่อให้กลิ่นของนกติดที่ไข่
ถ้ายังไม่ยอมกิน ให้ใช้มาตรการสุดท้าย คือป้อนด้วย ไซริ้งค์ฉีดยา
ให้ไปดูวิธีจาก Youtube พิมพ์ว่า snake tube feeding หรือ snake force feeding


ตู้เลี้ยง :
ตู้ไซส์ 20 แกลอนขึ้นไป ซึ่งคือ 24x12x16 หรือ 30x12x12 นิ้ว
จะเป็นตู้ใส หรือ กล่องพลาสติกขนาดใหญ่มากก็ได้ (ถ้าเป็นอย่างหลัง ให้เจาะรูระบายอากาศให้มากพอสมควร เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน)

ในตู้ต้องมีถ้วยก้นไม่ลึกสำหรับใส่น้ำดื่ม
มีถ้ำซ่อนตัว หรือ ใส่อะไรที่คล้ายๆรังนกในตู้ เช่นชามที่มีวัสดุของรังนกอยู่ข้างใน เพราะในธรรมชาติ มันจะนอนในรังนกหลังจากสวาปามไข่หมด
ใส่ต้นไม้ปลอม ให้งูมีที่ปีนป่ายด้วย

วัสดุรองพิ้น เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง เปลี่ยนวัสดุรองพื้นเดือนละครั้ง

- ขี้เลื่อย ชนิด aspen(อ่านจากหน้าถุง) ห้ามใช้อันที่เป็น Cedar หรือ Pine
- กระดาษหนังสือพิมพ์(อย่าดูถูกไป กระดาษนสพ เป็นรองพื้นระดับสุดยอดสำหรับสัตว์หลายชนิดเลยครับ เพราะใช้แล้วไม่เสี่ยงว่าสัตว์เลี้ยงจะเผลอกลืนเข้าไปอุดตันในท้องเหมือนทราย กับขุยมะพร้าว)
- ทราย  ดูสวย แต่เสี่ยงเข้าไปอุดตันในท้อง
- ขุยมะพร้าว
- cypress mulch ฝรั่งแนะนำให้ใช้กันเยอะ แต่ผมไม่รู้ชื่อภาษาไทย (เศษฟางของหญ้าไซปรัส?) ดูคล้ายๆขี้เลื่อย น่าจะหาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงที่เอาของนำเข้ามาจากต่างประเทศ