Tuesday, August 20, 2019

ประสบการณ์โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา

ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆกับ โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา

เนื่องจากจู่ๆวันนึงแมวของผมก็เป็นโรค เชอร์รี่ อาย Cherry eye ขึ้นมา ก็เลยต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬาฯ
เลยขอเล่าประสบการณ์คร่าวๆ เผื่อใครยังไม่เคยไปใช้บริการ จะได้ทราบขั้นตอนครับ

ข้อมูลทั่วไป

1. หลักๆแล้วเราจะต้องติดต่อกับอาคารสองแห่งที่อยู่ติดกัน อาคารแรกคือเวชระเบียน สำหรับติดต่อรับบัตรคิวพบหมอ รวมทั้งเป็นสถานที่จ่ายเงินด้วย
เวลามา รพ. ทุกครั้ง ต้องมาอาคารเวชระเบียนนี้ก่อน ไม่ว่าจะมีใบนัดหรือไม่ก็ตาม และถ้ายังไม่มีประวัติก็ต้องมาลงทะเบียนที่นี่เช่นกัน
ส่วนอีกอาคารจะเป็นสถานที่รักษา รวมทั้งผ่าตัด

ควรไปถึงไม่เกิน 8โมงครึ่ง ไม่งั้นจะได้คิวท้ายๆ ไปถึงซัก 7โมงได้ยิ่งดี

2. ที่นี่มี คลินิกสัตว์เลี้ยงพิเศษ ที่รับรักษาสัตว์เลี้ยงแปลกๆด้วย แต่ไม่รู้ว่าอยู่อาคารเดียวกับที่รักษาหมาแมวหรือไม่
เอาเป็นว่าก่อนจะมา ลองโทรถามดูก่อน เบอร์โทรอยู่ข้างล่าง

3. ตัวโรงพยาบาลอยู่ถนนอังรีดูนัง ถ้าขึ้นแท๊กซี่ก็บอกเค้าให้มาถนนนี้ สามารถลงจากทางด่วนมาถึง รพ. ได้ทั้งเพชรบุรี พระราม4 และหัวลำโพง ผมนั่งรถจากบางนาถึงรพ. ค่ารถราวๆ 170-230 บาท แล้วแต่วัน ไม่รวมค่าทางด่วน 50 บาท

4. โรงพยาบาลเปิดทุกวัน วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็เปิด!!(ผมไปตอนวันแม่มา) แต่วันหยุดแบบนี้คุณหมอจะมาไม่ครบ คิวจะนานหน่อย และไม่รู้ว่ารับเฉพาะคนที่มีใบนัดรึเปล่า

5. ถ้าหมาหรือแมวต้องผ่าตัด ควรพกทิชชู่หรือกระดาษหนังสือพิมพ์แผ่นใหญ่ไปด้วย เพราะก่อนผ่าจะมีขั้นตอนฉีดยาที่ทำให้สัตว์เลี้ยงเราอาเจียนออกมา และสถานที่ที่ฉีดก็คือตรงจุดที่ทุกคนนั่งรอระหว่างผ่าตัดกัน จึงต้องช่วยกันรักษาความสะอาด

6. ถ้าหิวระหว่างรอคิวหมอ มีร้านขายอาหาร กับพวกขนมปัง และกาแฟอยู่สองร้าน ร้านแรกตรงหน้าปากทางเข้าใกล้กับถนนใหญ่ ส่วนอีกร้านอยู่ชั้น2ของอาคารรักษา ติดกับแผนกจักษุ

การรักษา Cherry eye ของแมวผม
- วันแรกได้ตรวจกับหมอแผนกทั่วไป และโดนจับเอ็กซ์เรย์เพื่อดูว่าสุขภาพดีพอจะรับยาสลบตอนผ่าตัดได้มั้ย
นอกจากนั้นก็ได้ยามาทาและกิน 1 อาทิตย์ ผมเดาว่าที่หมอให้ยา เพราะหมอคงเผื่อว่าจะไม่ใช่เชอรี่อาย แต่เป็นแค่ตาอักเสบ และนัดตรวจอีกครั้ง 7 วันข้างหน้า
วันแรกผมใช้เวลามากสุด เพราะต้องไปแผนกX-ray ที่คิวยาวและรอผลนาน ส่วนวันอื่นๆกินเวลาแค่1-2 ชั่วโมง

- หนึ่งอาทิตย์ต่อมา แมวก็ยังมีอาการเดิม คราวนี้เลยได้ไปที่แผนกจักษุชั้น 2 และได้นัดวันผ่าตัดอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา ซึ่งคุณหมอที่ตรวจจะเป็นคนผ่าเอง

- ระหว่างรอให้ถึงวันผ่าตัด ก็ใจระทึกด้วยความกังวลตลอด ว่าแมวอาจไม่ฟื้นจากยาสลบก็ได้ เพราะก่อนหน้านั้นมีข่าวคนเสียชีวิตเพราะยาสลบระหว่างผ่าตัด
ผมเลยต้อง search Google อยู่บ่อยๆ เพื่อดูข้อมูลปลอบใจตัวเองว่าโอกาสที่แมวจะเสียชีวิตเพราะยาสลบนั้นมีน้อยมาก เว้นแต่ว่าแมวจะอายุเยอะ จึงจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง

- คืนก่อนวันผ่าตัด ต้องงดอาหารแมวตั้งแต่ 2 ทุ่ม ส่วนน้ำ งดตั้งแต่ 4 ทุ่มหรือเที่ยงคืนนี่แหละ แมวร้องโหยหวนขออาหารตลอด เลยต้องขังไว้ในห้องนึงพร้อมกับกะบะทราย

- วันผ่าตัด ต้องขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นของห้องผ่าตัด และจุดนั่งรอ  หลังจากเอาเอกสารใส่ตระกร้าหน้าห้องผ่าตัด  ก็หอบแมวไปอยู่ตรงจุดนั่งรอ แล้วซักพักหมอก็จะมาฉีดยาซึ่งจะทำให้แมวอ้วกและซึม
อีก 20 นาทีต่อมา หมอก็จะพาแมวเข้าห้องผ่าตัด ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง จำได้ว่าออกมาเร็วกว่าที่คิดมาก
ระหว่างรอ บรรยากาศจะหดหู่หน่อยๆ เพราะจะมีเจ้าของสัตว์เลี้ยงตัวอื่นนั่งรออยู่เหมือนกัน มีทั้งคนสวดมนต์ภาวนาให้กับสัตว์เลี้ยงที่กำลังผ่าตัด บางเคสก็เป็นหนักจนรู้สึกว่าปัญหาของเรานั้นเบาไปเลย

- พอหมอส่งคืนแมว รวมทั้งให้คำแนะนำหลังผ่าตัดและการกินยา ก็ลงไปจ่ายเงินชั้นล่าง และเอาใบเสร็จกลับมาที่ชั้น 6 เหมือนเดิม

-หมอนัดตรวจวันต่อมาหลังจากวันผ่าตัดเลย หลังจากนั้น ก็ข้ามไป 7 วัน และข้ามไปอีก 14 วันเป็นครั้งสุดท้าย

-รวมทั้งหมดผมได้ไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา 6 ครั้ง สำหรับโรค cherry eye หนึ่งโรค

-หลังผ่าตัดไม่ต้องพาแมวไปทำแผลที่ไหน แค่หยอดยาให้ทุกวัน


ภาพประกอบผู้ต้องหา

ค่าใช้จ่าย
1. วันที่ไม่มียา ไม่เกิน 600
2. วันที่มียา 700-900
3. มียา+เอ็กซ์เรย์ 1000-1400
4. ผ่าตัด 4000-5000 ถ้าจำไม่ผิด

เบอร์โทร 02-2189715
จ- ศ เวลาทำการ 8.00-15.00
ส-อ เวลาทำการ 8.30-11.00  *วันเสาร์อาทิตย์อาจต้องจ่ายแพงกว่าปรกติ