กุ้งยามาโตะ

กุ้งยามาโตะ (amano shrimp) และ กุ้งเชอร์รี่ (red cherry shrimp) (สั้นๆว่า RCS)

กุ้งทั้งสองชนิดเหมาะกับคนที่อยากเลี้ยงสัตว์น้ำที่ใช้ตู้ขนาดเล็ก ( 8-12นิ้ว ไม่ควรเล็กกว่านั้น) และไม่ต้องมีที่กรองน้ำกับออกซิเจน
เหตุผลที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เพราะพวกมันปล่อยของเสีย(bioload) ออกมาน้อยมาก เมื่อเทียบกับปลา
กุ้งพวกนี้ทนและราคาถูก ผมปล่อยไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิถึง 35 องศาตอนกลางวัน ก็ยังอยู่ได้ (แต่จริงๆก็ควรยกไปวางไว้จุดที่เย็นกว่านี้ในบ้านตอนกลางวัน อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาแหละ)

ขนาดของกุ้งเชอรี่เมื่อโตเต็มที่จะประมาณ 1-1.25 นิ้ว ส่วนกุ้งยามาโตะ จะใหญ่ 2-3 นิ้ว
กุ้งยามาโตะจะทนมากกว่าเชอรี่ บางคนเล่าว่าขนาดปลาตายหมดบ่อมาเป็นเดือนจนน้ำเน่า กุ้งยามาโตะของเขาก็ยังรอดอยู่
ส่วนกุ้งเชอรี่ ถ้าเราลืมเปลี่ยนน้ำนานไป ก็จะตายได้ง่ายๆ
เมืองนอกเรียกกุ้งยามาโตะว่ากุ้ง อามาโน่  (amano shrimp)

อายุขัยเฉลี่ย(lifespan):
กุ้งเชอร์รี่ 1.5-2 ปี กุ้งยามาโตะ 2-3 ปี แต่ก็มีหลายกรณีที่กุ้งยามาโตะอยู่รอดเกิน 5 ปีเหมือนกัน

อาหาร:
มีอาหารสำเร็จรูปสำหรับกุ้งขายหลายยี่ห้อ ส่วนตัวแล้วผมให้ 1 เม็ด ต่อ 1 ตัว วันเว้นวัน
อย่าให้เยอะเพราะจะทำให้น้ำเสียเร็ว  และถ้ากุ้งเห็นว่ามีอาหารเหลือเฟือ มันก็จะออกลูกมาล้นตู้
ดังนั้นถ้าอยากควบคุมประชากรกุ้ง ควรให้อาหารแบบกระเหม็ดกระแหม่ กุ้งก็จะไม่คลอดลูกมาแย่งอาหารตัวเอง

ตู้เลี้ยง:
ควรมีขนาดซัก 8-12 นิ้วเป็นอย่างต่ำ ถ้าเล็กกว่านั้นคุณภาพน้ำจะแย่ลงได้ง่าย
เปลี่ยนน้ำทุก 1 อาทิตย์ โดยมีน้ำเก่าเหลือไว้บ้าง ตู้ขนาดนี้เลี้ยงได้ประมาณ 3-4ตัว ยิ่งตู้ใหญ่ น้ำยิ่งเสียช้า และคุณภาพน้ำคงที่กว่าตู้เล็ก
ถ้าเลี้ยงกุ้งยามาโตะ อาจจะต้องมีฝาปิด เพราะบางตัวชอบกระโดดออกนอกตู้

พฤติกรรม:
ทั้งสองชนิดเลี้ยงรวมได้
กุ้งจะมีการลอกคราบอยู่เป็นระยะ ดังนั้นเราจะเห็นคราบของมันจมอยู่บางครั้ง
กุ้งยามาโตะ จะกินตะไคร่น้ำในตู้ได้ดีกว่าเชอรี่
กุ้งยามาโตะเพาะพันธุ์ยาก เวลาเลี้ยงจึงไม่ต้องกลัวว่ามันจะมีลูกออกมาล้นตู้