หอยทาก

หอยทาก(Snail) เป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ดูแลค่อนข้างง่าย จับเล่นได้ ไม่เรื่องมากเรื่องอาหาร และอายุยืน
แม้ว่าพวกมันจะเชื่องช้า แต่ก็จะทำกิจกรรมน่าสนใจให้เราดูในตู้เลี้ยงเสมอ
เป็นสัตว์ที่ตื่นตัวในตอนกลางคืน

นอกจากนี้ เรายังไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อหอยทากเลย แค่เดินหาชนิดที่ถูกใจในสวนหลังบ้านเรา ก็จับมาเลี้ยงได้แล้ว

อายุขัยเฉลี่ยของพวกมันคือ 3-7 ปี

แม้ว่าจะเลี้ยงตัวเดียวได้ เราควรเลี้ยงอย่างน้อยคู่หนึ่งจะดีกว่า หอยทากเป็นสัตว์สังคมมากกว่าที่เราคิด และการเลี้ยงสองตัวขึ้นไป ก็จะทำให้เราได้เห็นกิจกรรมทางสังคมของมันด้วย

หอยทากสามารถสืบพันธุ์โดยไม่มีคู่ได้ ดังนั้นต่อให้เลี้ยงตัวเดียวหรือมากกว่านั้น มันก็ออกไข่ได้อยู่ดี (คอยกำจัดไข่ของมัน ถ้าไม่อยากได้ลูกเพิ่ม)


อาหาร:

หอยทากส่วนมากไม่จู้จี้เรื่องอาหาร ขอให้เป็นผักผลไม้สดก็พอ ง่ายๆเลยก็ แตงกวา ผักกาด กะหล่ำปลี กล้วย และควรให้อาหารทุกวัน  ถ้าเป็นแครอท อาจจะต้องเอาไปต้มซักสองสามนาทีให้นุ่มก่อน
ลองให้ผักต่างๆนอกเหนือจากที่ยกตัวอย่างดู มันชอบอันไหน มันก็จะกินอันนั้น อันไหนไม่ชอบ มันก็แค่ไม่กิน
บางตัวก็กินเนื้อสด ไข่ดิบ ขนมปังโฮลวีต และอาหารเต่า เราสามารถลองให้เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการได้

นานๆทีก็ให้มันกินเบียร์ซักหยดสองหยด เพราะยีสต์ในเบียร์มีประโยชน์กับมัน แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร
อาหารทุกอย่างควรใส่ไว้ในจานเตี้ยๆ เพื่อไม่ให้เปรอะวัสดุรองพื้น

คอยเอาเศษอาหารออกทุกสองสามวัน เพื่อไม่ให้เชื้อราขึ้น

นอกจากนี้ในตู้ก็ต้องมีจานใส่น้ำทรงแบน ให้หอยทากดื่มกิน หรือลงไปอาบเล่น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น อย่าใช้ภาชนะก้นลึกเพราะหอยทากอาจจมลงไปได้ และต้องเป็นน้ำดื่มไม่มีคลอรีน

อาหารที่ห้ามให้ - อาหารเค็มมีเกลือ ข้าวหรืออะไรที่เป็นเมล็ดแข็งๆเล็กๆเพราะจะไปอุดตันในท้อง ผลไม้พวกมะนาวส้ม มะเขือเทศ

แคลเซียม:

เวลาเลี้ยงต้องให้แหล่งแคลเซียมกับหอยทากทุกวันด้วย: เช่นจากกระดองปลาหมึก ซึ่งมีขายเป็นแพ๊คสำหรับวงการคนเลี้ยงนก เอาใส่ไว้บนจานตลอดเวลา จะได้ไม่นิ่มง่าย หลังจากทิ้งไว้ในตู้หลายวันก็หยิบออกไปตากให้มันแห้งแล้วค่อยใส่คืน จะได้ประหยัด ระหว่างนั้นก็สลับเอากระดองปลาหมึกอันอื่นใส่จานแทนไปก่อน

เวลากินหอยทากจะขึ้นไปนั่งบนกระดองปลาหมึก แล้วดูดกินแคลเซียมผ่านทางเท้ามัน

ตัวเลือกต่อมาคือแคลเซียมผง เอามาคลุกกับผักที่มันกิน หาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะร้านในจตุจักร
ใช้เปลือกใข่ก็ได้ แต่ไม่ค่อยมีคุณค่าด้านแคลเซียมเท่าสองอย่างแรก  เอาไว้เป็นแหล่งแคลเซียมฉุกเฉินเท่านั้น

พฤติกรรม:
ปรกติแล้วหอยทากจะซ่อนตัวตอนกลางวัน และออกมาตอนกลางคืน


ตู้เลี้ยง:

ใช้ตู้พลาสติกที่เลี้ยงปลา ขนาดอย่างต่ำ 12 นิ้ว ใหญ่กว่านี้ได้ยิ่งดี มีฝาปิด และรูระบายอากาศ
แต่ถ้าเป็นหอยทากพันธุ์เล็ก จะเลี้ยงในกล่องทัพเพอร์แวร์พลาสติกเล็กๆก็ได้ อย่าลืมเรื่องรูระบายอากาศและฝาปิด

- ใส่วัสดุรองพื้นประมาณ 4-10 เซนติเมตร

- ใส่เปลือกไม้ เช่นเปลือกไม้โอ๊ค ให้เป็นที่ซ่อน หรือฝังกระถางพลาสติกเล็กๆไว้ครึ่งหนึ่ง ให้ดูเหมือนถ้ำ
บางชนิดก็ชอบซ่อนตัวตามก้อนหิน หรือปีนขึ้นที่สูงเพื่อพักผ่อน(เช่นฝาตู้)

- ใส่พวกกิ่งไม้ลงไปในตู้ เพราะหอยทากบางตัวชอบปีนป่าย

- อย่าวางตู้ในตำแหน่งที่โดนแดด แสงยิ่งน้อยยิ่งดี

- ทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งถึงเดือนละครั้ง แล้วแต่ความสกปรกของตู้



วัสดุรองพื้น:
ปัญหาอย่างหนึ่งในการเลี้ยงหอยทากคือการเลือกวัสดุรองพื้น ถ้ามันไม่ชอบ หรือเป็นกรดเกินไป คือมีค่า pH ต่ำกว่า pH 7 หอยทากก็จะเกาะอยู่ที่ฝาตู้เลี้ยงตลอดเวลา ไม่ยอมลงมาเลย

ให้ลองใช้วัสดุตามนี้ครับ
- ขุยมะพร้าว   ซื้อจากร้านขายต้นไม้ดอกไม้  ควรใช้เป็นตัวเลือกแรกๆ แต่หอยทากบางตัวก็ไม่ชอบ เพราะทำให้มันรู้สึกจั๊กจี้ตอนเดิน
- ดินที่ไม่ผสมปุ๋ย และไม่มียาฆ่าแมลง  มี pH สูงกว่า 7 (ดูจากฉลากของถุง แต่ผมไม่รู้ว่าดินในไทยมีเขียนบอกมั้ย)
- ถ้าใช้ดินจากสวนในบ้าน ให้เอาแช่ตู้เย็นก่อน เพื่อทำลายสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่อาจทำอันตรายหอยทาก แต่เว็ปต่างๆไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ดินจากที่บ้านเท่าไหร่
- สแฟกนัม มอส (Sphagnum Moss)
- เปลือกไม้
- วัสดุรองพื้นระดับสากล อย่าง Eco Earth ของ Zoomed ใช้ได้กับสัตว์เลี้ยงหลายชนิดเลย

การอาบน้ำ:

ควรอาบน้ำให้หอยทาก อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อกำจัดเชื้อโรคและปรสิตต่างๆ แต่ถ้าเป็นลูกหอยทากที่ตัวเล็กมาก ไม่ต้องอาบก็ได้
วิธีอาบมีหลายวิธี
ห้ามใช้สบู่แชมพูทุกขั้นตอน และอย่าจับหอยทากหงาย เพราะน้ำจะไปขังในเปลือก

วิธีแรก
1. เอาหอยทากมาวางไว้บนมือ ถ้าเป็นไปได้ควรให้มันปีนขึ้นมือเอง
2. ใช้แปรงสีฟันเก่าที่ขนนุ่ม หรือ ผ้านุ่มๆ กระดาษทิชชู่ เช็ดถูเปลือกหอยทากเบาๆ อย่าออกแรง
3. ค่อยๆรดน้ำจากด้านบนของเปลือกหอยทาก  หรือจะเอากระบอกฉีดน้ำ  ฉีดใส่แทนการรดน้ำก็ได้
4. ปล่อยให้เปลือกมันแห้ง  และให้อาหารเป็นรางวัล

วิธีที่สอง
วางจานใส่น้ำตื้นๆ แล้วอุ้มหอยทางมาวางตรงขอบจาน แล้วให้มันเดินลงน้ำเอง ควรระวังถ้าน้ำลึกเกินไปหอยทากอาจจมได้

บางคนก็ใช้วิธีง่ายๆ อย่างการอุ้มหอยทากมาถือไว้ตรงอ่างล้างจาน แล้วเปิดก๊อกเบาๆราดตัวมัน หรือให้มันยื่นหัวหาน้ำที่ไหลลงมาเอง แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันว่าคลอรีนปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงชนิดนี้


TIPS & TRIVIA

- ล้างมือถูสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง หลังสัมผัสกับหอยทาก

- เวลาเลี้ยงต้องให้วัสดุรองพื้นมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา แต่อย่าให้ถึงกับเปียกโชก
ใช้กระบอกฉีดน้ำแบบที่ใช้ฉีดตอนรีดผ้า ฉีดน้ำสะอาดไม่มีคลอรีนลงในตู้และที่ตัวหอยทากทุกวัน
ถ้าวัสดุรองพื้นแห้งเร็ว แปลว่าตู้ของเรามีรูมากไป ในทางกลับกัน ถ้าตู้ดูเฉอะแฉะตลอดเวลา ก็แปลว่าในตู้มีรูระบายความชื้นไม่พอ

- ห้ามเอาหอยทากจากต่างประเทศ มาเลี้ยงรวมกับตัวที่มาจากไทย เพราะพวกมันอาจป่วยเมื่อได้รับแบคทีเรียหรือพยาธิ จากหอยทากที่มีถิ่นกำเนิดต่างกันได้

- หอยทากต่างประเทศที่เราไม่อยากเลี้ยงแล้ว ให้ประกาศส่งต่อให้คนอื่นผ่านทางเว็ปไซต์ต่างๆ (เช่นกลุ่มแจกสัตว์เลี้ยง ในเฟซบุ๊ค)
ห้ามปล่อยลงในธรรมชาติเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลร้ายต่อระบบนิเวศ เพราะพวกมันไม่ใช่สัตว์ในไทย
หรือถ้าจนปัญญาหาคนมารับต่อไม่ได้จริงๆ เว็ปฝรั่งแนะนำว่าให้ทำการุณยฆาตด้วยการเอาหอยทากใส่ถุงพลาสติกปิดปาก แล้วแช่ช่องฟรีซ แต่ผมเชื่อว่ามีคนอยากรับเลี้ยงต่อกันอยู่แล้ว

ส่วนหอยทากเราที่จับมาเลี้ยงจากตามพื้นดินแถวบ้าน สามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ตามปรกติ

- ห้ามให้หอยทากโดนเกลือเด็ดขาด  และถ้าหอยทากเผลอไปสัมผัสกับเกลือ ให้รีบล้างด้วยน้ำดื่มสะอาดทันที

- ถ้าหอยทากไม่ได้รับแคลเซียมนานๆ มันจะเริ่มกินเปลือกตัวเอง

- แม้จะดูเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีหน้าตาไม่น่าดึงดูด แต่กลับมีสาวๆหลายคนใน YouTube เลี้ยงดูพวกมันและอุ้มถืออย่างไม่รู้สึกแขยงเลย